ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของ เชลซี สร้างความปั่นป่วนภายในห้องแต่งตัว เกี่ยวกับแผนหั่นค่าจ้างนักเตะ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่ไม่ได้บังคับใช้อย่างเท่าเทียม ค่าแรงถูกลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ของเดิม เพื่อชดเชยการเสียรายได้จากการไม่ผ่านควอลิฟาย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

มาตรการลงโทษ มีผลเฉพาะนักเตะใหม่ และนักเตะเดิมซึ่งได้รับสัญญาใหม่เรียบร้อยแล้ว อาทิ รีซ เจมส์ ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติอังกฤษ

เจมส์ วัย 23 ปี เพิ่งเซ็นสัญญา 6 ปี เมื่อเดือนกันยายน 2022 ค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8.6 ล้านบาท) โดยจะถูกหัก 60,000 ปอนด์ (2.57 ล้านบาท) ตั้งแต่เปิดซีซัน 2023-24

ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายวัย 26 ปี เพิ่งเซ็นสัญญาใหม่ 4 ปี สัปดาห์ที่แล้ว แต่จะสูญรายได้ 0.3 เท่า หลังสโมสรชวดโควตาฟุตบอลสโมสรยุโรป

แม้กระทั่ง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ค่าตัวแพงสุดของเกาะอังกฤษ 106 ล้านปอนด์ (4,540 ล้านบาท) เดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ต้องถูกลดค่าจ้างก้อนหนึ่งของสัญญา 8 ปีครึ่ง

ตรงกันข้าม ผู้เล่นที่ยังใช้สัญญาเดิม ยุค โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เช่น ไค ฮาเวิร์ตซ, มาเตโอ โควาซิช, เมสัน เมาน์ท, เอดูอาร์ เมนดี, เกปา อาร์ริซาบาลากา, คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซิเยค จะได้รับค่าแรงเท่าเดิม

แหล่งข่าววงใน “เดอะ บูลส์” กล่าว “คุณสามารถนึกภาพได้เลยว่าจะเป็นอย่างไร นักเตะบางคนได้รับผลกระทบ แต่คนที่เล่นด้วยกันรอดตัว”

“มันไม่ใช่วิธีที่ดีสำหรับรักษาบรรยากาศห้องแต่งตัว ซึ่งรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันอันย่ำแย่ และเปลี่ยนผู้จัดการทีมบ่อย”

“ลองดูสีหน้านักเตะ เชลซี บางคนระหว่างเกม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (แพ้ รีล มาดริด 0-2) พวกเขาดูโกรธ คุณคงรู้สาเหตุ”

 

ติดตามอ่านข่าวกีฬาได้ที่  francomurer.com