Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
โรคมือเท้าปาก โรคระบาดในเด็กที่ต้องระวัง
สาเหตุและอาการของโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ Enterovirus เด็กที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้ ซึ่งอาจจะไข้ต่ำหรือไข้สูงก็ได้และจะมีแผลในปาก มีผื่นที่มือที่เท้า
ส่วนใหญ่แผลในปากสามารถพบได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่บริเวณของเพดานแข็งเพดานอ่อนหรือบางคนก็พบที่กระพุ้งแก้มหรือที่ลิ้น บางคนเป็นเยอะก็จะลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบๆริมฝีปาก ส่วนผื่นที่มือที่เท้า ส่วนใหญ่จะเป็นตุ่มแดงๆหรือบางครั้งก็เป็นตุ่มน้ำใส บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น
บางคนเป็นแผลเยอะ และทำให้เจ็บปากมาก รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ถ้าหากมีอาการเพลียมาก รับประทานอาหารไม่ได้ ต้องมาโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือเข้าทางเส้นเลือด ช่วยประคับประคองไป จนกว่าอาการจะดีขึ้น รับประทานได้ดีขึ้นก็กลับบ้าน
ภาวะแทรกซ้อน
ส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายใน 5-7 วัน แต่ขณะเดียวกันคือ ภาวะแทรกซ้อนก็พบได้ อันที่รุนแรงที่สุด เราเรียกว่าเป็นก้านสมองอักเสบ ซึ่งพบได้น้อยมาก ๆ 1-5 รายต่อปี แล้วก็มีโอกาสเสียชีวิตที่สูง พ่อแม่ต้องสังเกตให้ดีว่าเด็กมีอาการที่น่ากังวลไหม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขามีอาการซึมลง หายใจหอบ หายใจเร็ว มีอาการชัก เกร็ง หมดสติ หรือมือสั่น ขาสั่น เดินเซ ถ้ามีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรจะต้องรีบพากลับมาพบแพทย์การแพร่เชื้อและวิธีป้องกัน
ระยะแพร่เชื้อเริ่มได้ตั้งแต่เขามีอาการ ตอนนี้ก็จะเริ่มมีเชื้อออกมาทางน้ำลาย แล้วก็อุจจาระแล้ว ยังสามารถที่จะแพร่ไปได้ จนกระทั่งถึงแม้ว่าโรคจะหายดีแล้ว เช่น ประมาณสัปดาห์หนึ่งหลังจากโรคหายแล้ว เรายังสามารถตรวจพบเชื้อในอุจจาระได้อีกเป็นระยะเวลาหนึ่งระยะที่แพร่เชื้อได้มาก ๆ ก็คือช่วงที่มีอาการ คือประมาณภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มมีอาการ
การรักษาโรคนี้ โดยทั่วไปก็จะเป็นการรักษาตามอาการ ถ้ามีไข้ก็ให้กินยาลดไข้ เช็ดตัวลดไข้ไปหรือถ้ามีอาการคัน ก็อาจจะกินยาแก้แพ้ แก้คันได้ ปัจจุบันเรายังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากโดยเฉพาะ แต่ว่าการป้องกันทำได้หลายอย่าง
อันที่ดีที่สุดก็คือ หยุดการแพร่กระจายของเชื้อ เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครไม่สบายก็ต้องหยุดเรียน จะได้ลดการแพร่กระจาย โรคนี้เกิดจากการไปสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนกับน้ำลายหรืออุจจาระ แล้วก็ไม่ทันระวัง ก็สัมผัสเข้ามา รับประทานเข้ามา แล้วก็ทำให้เราได้รับเชื้อนี้เข้าไป เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะป้องกันได้ดีที่สุด ก็คือการดูแลสุขอนามัยให้ถูกต้อง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนก่อนและหลังรับประทานอาหาร หรือว่าหลังจากเข้าห้องน้ำ เป็นต้น
Economy
-
หวั่นนักท่องเที่ยวจีนใช้เงินน้อยกว่าคาด แพงขึ้น 2 เท่า
หวั่นนักท่องเที่ยวจีนใช้เงินน้อยกว่าคาด เจอค่าตั๋วแพงขึ้น 2 เท่าแถมต้องตรวจ PCR ก่อนกลับประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดนักท่องเที่ยวจีนปี 66 อาจแตะ 4.65 ล้านคน ชี้เริ่มเห็นเข้าไทยช่วงไตรมาส 2 มองโอกาสการใช้เงินอาจไม่สูงดั่งหวัง เหตุเจอราคาตั๋วเครื่องบินแพง และต้องตรวจ PCR ก่อนกลับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดชาวจีนเที่ยวไทยในปี 2566 อาจแตะ 4.65 ล้านคน โดยการเร่งตัวของนักท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นในช่วงไตรมาส 2 และยิ่งชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ตามการขยายเส้นทางการบินและความถี่ของเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าบัตรโดยสารเครื่องบินและประกันที่เพิ่มขึ้น คงทำให้การใช้จ่ายท่องเที่ยวในไทยของชาวจีนอาจไม่เพิ่มจากช่วงก่อนโควิด ภายใต้งบประมาณที่จัดสรรเพื่อการท่องเที่ยวเท่าเดิมจากการคาดการณ์ตลาดจีนเที่ยวไทยที่มาได้เร็วกว่าคาด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2566 เป็น 25.5 ล้านคน (กรอบ 24-26 ล้านคน) ซึ่งจะสร้างเม็ดเงินสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องราว 1.07 แสนล้านบาท
การเร่งตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปีนี้จะเริ่มเห็นชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 และน่าจะก้าวกระโดดมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ตามการขยายเส้นทางการบินและความถี่ของเที่ยวบินระหว่างจีนและไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่จำนวนเที่ยวบินต่อวันจากจีนมาไทยอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในระหว่างปี เมื่อเทียบกับประมาณ 1,035 เที่ยวบินในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 หรือเฉลี่ยประมาณ 11-15 เที่ยวบินต่อวัน และเทียบกับในช่วงที่จีนปิดประเทศเฉลี่ยที่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เที่ยวบินต่อวันในปี 2566 นี้อาจจะกลับมาราว 60-70% จากก่อนโควิด
อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดเส้นทางการบินจนถึง ณ ปลายปี 2566 อาจจะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 93 เที่ยวบินต่อวัน (รวมเช่าเหมาลำ) ในช่วงก่อนการระบาดของโควิดในปี 2562 เนื่องจากจำนวนชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแม้เพิ่มขึ้นแต่อาจยังมีจำกัด และการจัดการด้านทรัพยากรรองรับคงต้องใช้เวลา อาทิ เครื่องบิน นักบิน พนักงานภาคพื้น เป็นต้น
สำหรับการใช้จ่ายต่อทริปในไทยของชาวจีนในปี 2566 อาจไม่เพิ่มหากเทียบกับก่อนโควิดในปี 2562 เนื่องจากชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต้องกันค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทาง (ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าประกันสุขภาพ) สูงขึ้น บนเงื่อนไขการตั้งงบประมาณการเดินทางตลอดทริปที่เท่าเดิมจากสถานการณ์เศรษฐกิจและรายได้ที่ไม่ได้ดีขึ้น ยกเว้นว่านักท่องเที่ยวจะใช้เงินออมหรือเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในจีน แม้ว่าราคาบัตรโดยสารเครื่องบินระหว่างไทย-จีนได้ปรับลดลงมาอย่างมากเมื่อเทียบกับในช่วงที่จีนยังปิดประเทศ แต่ราคาบัตรของเส้นทางบินตรงยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนการระบาดของโควิดประมาณ 1.5 เท่า และสูงกว่า 200% ในเมืองที่ยังไม่มีเส้นทางบินตรง
เนื่องจากในช่วงของการเริ่มเปิดประเทศปริมาณผู้โดยสารยังจำกัด ขณะเดียวกัน เนื่องจากต้นทุนในธุรกิจสายการบินยังสูง โดยเฉพาะราคาพลังงานที่มีแนวโน้มกลับมาสูงขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศ ทำให้ราคาบัตรโดยสารน่าจะยังทรงตัวสูง นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างประกันสุขภาพ และการตรวจ PCR ก่อนที่ชาวจีนจะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งเบี้ยประกันอาจมีราคาหลักพันบาทหรืออาจสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุและระยะเวลาพำนักในไทย
ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวจีนมีงบการเดินทางเท่าเดิม ก็จะเหลือเม็ดเงินสำหรับการใช้จ่ายท่องเที่ยวน้อยลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงถัดๆ ไปของปี หากการระบาดของโควิดบรรเทาลงและผู้ประกอบการกลับมาทำการตลาดมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ค่าใช้จ่ายที่ต้องกันไว้นี้อาจจะลดลงและทำให้ชาวจีนมีเม็ดเงินใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีได้
สำหรับสิ่งที่ต้องติดตามมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนของต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป หากสถานการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจากปัจจุบัน และการท่องเที่ยวระยะไกลมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ชาวจีนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว จะเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง
โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เมื่อเส้นทางการบินกลับมาขยายตัว ควบคู่กับการทำการตลาดของหน่วยงานท่องเที่ยวและผู้ประกอบการมีมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าไทยถูกเลือกเป็นหนึ่งในประเทศนำร่องของการฟื้นฟูการเดินทางแบบกลุ่มขนาดใหญ่ คงจะทำให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยเร่งตัวขึ้นก้าวกระโดดจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวจีนที่สำคัญ คือ ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน (ระหว่างเดือนก.ค.-ส.ค. ของทุกปี) และช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (ในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค. ของทุกปี)
สำหรับทั้งปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะมีจำนวนประมาณ 4.65 ล้านคน หรือกลับมาประมาณ 42% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปี 2562 อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลต่องบประมาณการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในไทยที่อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การใช้จ่ายของชาวจีนเที่ยวไทยสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องอาจจะมีมูลค่าประมาณ 1.86 แสนล้านบาท หรือกลับมา 36% ของการใช้จ่ายของชาวจีนเที่ยวไทยในปี 2562
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : francomurer.com
Posts Carousel
Latest News
นิวคาสเซิลชนะนอตทิงแฮมฟอเรสต์ด้วยจุดโทษอิซัคในช่วงท้าย
บทลงโทษช่วงทดเวลาเจ็บของอ...
พรีเมียร์ลีกออกแบบใหม่ชื่อชุดแข่งหมายเลขโลโก้ฤดูกาล2023-24
ผู้เล่นทุกคนในพรีเมียร์ลี...
โปรโมชั่น เกมส์ใหม่สล็อต ขอสูตรปั่นสล็อต แตกง่าย
ขอสูตรปั่นสล็อต แตกง่าย โ...
อันเชลอตติคอนเฟิร์มเบนเซมาพร้อมลงซัดลิเวอร์พูลศึกยูฟ่า
คาริม เบนเซมา ดาวยิงคนสำค...