ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นสุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group แม้ว่าจะมีขนาดตัวเล็กแต่ปอมเมอเรเนียนกลับครองใจเจ้าของผู้เลี้ยงมาอย่างยาวนาน แถมยังเป็นสายพันธุ์สุดโปรดของทั้งเจ้าของอย่างเราและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แถมประวัติของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้สายพันธุ์ไหน ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม มีความเป็นมิตร น่ารักมีชีวิตชีวา ขนาดตัวที่แสนกะทัดรัด ช่างเอาอกเอาใจ แอคทีฟแสนกระตือรือร้น และเก่งไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์ไหนในสนามประลองความสามารถก็เล่นทำได้ไปเสียหมดทุกเรื่องขนาดนี้ มิน่าล่ะทำไมใครๆ ก็เรียกปอมเมอเรเนียนว่าเป็นสุนัขตัวเล็กแต่ความสามารถรอบด้าน

ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
ตามพื้นฐาน ปอมเมอเรเนียนจะมีนิสัยตื่นตัว อยากรู้อยากเห็น และชอบพบปะผู้คนใหม่ ๆ ตลอดเวลา แม้ภายนอกปอมเมอเรเนียนจะดูเป็นคุณหนู บอบบาง แท้จริงแล้วพวกมันเป็น สุนัขที่มีความฉลาด เอาแต่ใจ และมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนในบางครั้งน้อง ๆ คิดว่าตัวเองตัวใหญ่และไปข่มพี่หมาพันธุ์ใหญ่ในบางครั้งได้ ดังนั้น เจ้าของจึงควรปรับพฤกติกรรมการเข้าสังคมของปอมเสียตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้น้องอยู่ร่วมกับหมาตัวอื่นได้ อีกข้อนึงของคือ ปอมเห่าเก่งมาก โดยน้องจะเห่าเมื่อมีสิ่งไม่ปล่อยภัยหรือปัจจัยมากระตุ้นให้น้อง ๆ เห่า ปอมจึงขึ้นชื่อเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีไม่แพ้หมาพันธุ์ใหญ่เลย

มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
เมื่อเลือกซื้อสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สิ่งที่คือต้องสังเกตุคือ ขนาดตัว ลักษณะใบหน้า และสีขน โดยปอมเมอเรเนียนมีลำคอและช่วงหลังค่อนข้างสั้น และมีหางวางอยู่ตำแหน่งสูงราบบนหลัง เวลาเดิน ขาหน้าต้องเหยียดตรง ไม่งอ ไม่พับ และขาหลังไม่ถ่างออก ต่อมาคือลักษณะใบหน้า โดยตามลักษณะสายพันธุ์แล้ว ปอมเมอเรเนียนมีลักษณะใบหน้าทั้ง 3 แบบ ได้แก่

ปอมเมอเรเนียนหน้าหมี (Teddy Bear) จุดเด่นคือ กระบอกปากสั้นกลม ดวงตาใกล้กันและห่างจากปากไม่มาก ซึ่งปอมหน้าหมี ถือเป็นลักษณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ปอมเมอเรเนียนหน้าตุ๊กตา (Baby Doll) จุดเด่นคือ กระบอกปากสั้น ดวงตาจะห่างจากปากมากกว่าปอมหน้ามีอยู่เล็กน้อย และมีใบหน้าที่แบนกว่า
ปอมเมอเรเนียนหน้าจิ้งจอก (Fox Face) จุดเด่นคือ กระบอกปากยาวและแหลมเหมือนสุนัขจิ้งจอก

ในเรื่องของสีขน โดยอ้างอิงจากมาตรฐานสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตาม American Kennel Club แล้ว ปอมมีหลากหลายสีมากกว่า 23 สี และ 9 รูปแบบลวดลายขน โดยสีที่พบเห็นบ่อย ๆ คือ สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม สีส้ม สีแดง สีขาว และสีดำ โดยสีลายเสือหินอ่อน (brindle merle) หรือ สีน้ำตาลเข้มลายหินอ่อน (liver merle) จะถือว่าไม่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสายพันธุ์

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
ปอมเมอเรเนียนขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก (Toy) ซึ่งมีอายุยืนยาวกว่าสุนัขขนาดกลาง โดยอายุน้อง ๆ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 ปี และอาจสูงถึง 20 ปีถ้าได้รับการดูแลอย่างดี อย่างไรก็ตาม น้อง ๆ มี 3 ปัญหาด้านสุขภาพหลัก ๆ ที่ต้องสังเกต

โรคผิวหนังสีดำ (Black Skin Disease) ถือว่าเป็นโรคที่มาคู่กับสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นอาการที่น้อง ๆ ขนร่วงเลยไม่ทราบสาเหตุ และมีจี้ดำตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย ซึ่งสาเหตุทางสัตวแพทย์ยังไม่พบอย่างแน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากไทรอยด์หรือความไม่สมดุลทางฮอร์โมนต่าง ๆ ซึ่งในบางรายก็จะรับยาปรับฮอร์โมน หรือในบางรายหมอก็จะพิจารณาให้ทำหมัน

โรคท่อลมตีบ (tracheal collapse) พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก ในรายที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน โดยอาการที่พบบ่อย ๆ คือ ไอคล้ายเสียงห่าน ในเวลาตื่นเต้นหรือเวลาออกกำลังกาย หายใจลำบาก หรือในบางครั้งกินเร็ว ๆ ก็ทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่สัตวแพทย์จะให้รักษาทางยา ไม่ว่าจะเป็นการกิน ฉีด หรือการพ่น ควบคู่กับการลดน้ำหนักตัว

โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) เกิดจากการที่ลูกสะบ้าเคลื่อนที่ไปในจุดที่ผิดปกติ ทำให้ปอมเมอเรเนียนร้องปวด เคลื่อนที่ได้ลำบาก และขาโก่งงอ และจำเป็นต้องเข้ารักษาด้วยการผ่าตัด ตามมาด้วยกายภาพบำบัด โดยเบื้องต้นให้หลีกเลี่ยงไปเดินหรือวิ่งในพื้นลื่น ๆ คุมน้ำหนักตัว และหมั่นเล็มขนที่ฝ่าเท้าให้เรียบอยู่ตลอด
อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
น้ำหนักตามมาตรฐานของปอมจเมอเรเนียนจะอยู่ที่ 1.9 – 3.5 กิโลกรัม โดยปริมาณอาหารหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและช่วงอายุ ซึ่งปอมไม่ควรอ้วน เพราะจะทำให้เกิดปัญสุขภาพต่าง ๆ ง่ายมาก และควรได้รับสารอาหารที่บำรุงขนน้อง ๆ ให้ฟูฟ่องสวยงามอยู่ตลอด

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ช่วงอายุ 4-7 เดือน
ปอมเมอเรเนียนวัยเด็ก มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) สูง ดังนั้นในช่วงหย่านมใหม่ ๆ ปอมเมอเรเนียนควรแบ่งกินวันละ 4 มื้อ โดยปริมาณสัดส่วนตามน้ำหนักของน้อง ๆ ซึ่งในช่วงแรก ๆ อยู่ที่ 1-2 กิโลกรัม จึงควรได้รับสารอาหารในปริมาณ ¾ ถึง 1 ½ ถ้วย และสามารถกินอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขสายพันธุ์รวมได้ และให้เพิ่มนมอุ่น ๆ เพื่อให้น้อง ๆ กินง่ายขึ้น

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน โตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป
เมื่อปอมเมอเรเนียนโตขึ้น ให้ลดสัดส่วนจาก 4 มื้อเป็น 2-3 มื้อต่อวัน และหลีกเลี่ยงการผสมอาหารสดกับอาหารแห้งเพื่อให้ระบบย่อยของปอมไม่สับสนและเกิดแก็สในกระเพาะอาหาร โดยเน้นไปที่สารอาหารประเภทโปรตีนสูง ซึ่งจะช่วยให้พลังงานดีและไม่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวน้อง ๆ รวมถึงสารอาหารประเภทกรดไขมันโอเมก้า 3,6 และ DHA ซึ่งจะเน้นไปที่การบำรุงขนให้เงา สวย ไม่ขาดหลุดร่วง โดย Yora อาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม มีสูตรสำหรับสุนัขสายพันธุ์เล็ก ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนจากแมลงสูงถึง 24% และมีไขมันดีสูง ถึงช่วยให้ระบบย่อยของปอมแข็งแรง รวมถึงมีโอเมก้าสูง ช่วยบำรุงขนของปอมเมอเรเนียนให้เงา สวย ไปนาน ๆ

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สูงวัย อายุ 7 ปีขึ้นไป
เมื่อปอมเมอเรเนียนเข้าสู่ช่วงสูงวัย ให้ลดปริมาณอาหารลง แต่ยังคงที่ 2-3 มื้อดังเดิม โดยให้ลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ลง แต่เพิ่มจากปลา พืช หรือแมลงมากขึ้น ซึ่งจะดีต่อปอมในวัยแก่ที่มีระบบย่อยอาหารที่เสื่อมลง และเน้นที่ไฟเบอร์หรือวิตามินสูง เพื่อบำรุงให้สุขภาพของแข็งแรง

ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้ที่ francomurer.com